วิธีใช้งานเบื้องต้น
1. คลาย zip ออกมา จะได้ไฟล์ Trade_Simulator_Installer.exe
2. Install ตัวโปรแกรมเข้าไป โดยเลือกใส่ใน Folder ของ MT4 ที่เราลงไว้ เช่น C:\ Program Files\Exness
3. ให้ไปตั้งค่า วัน/เวลา ของคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็น ค.ศ. (2012) ถ้าเป็น พ.ศ. (2055) โปรแกรมจะงง
4. ให้เปิด MT4 ขึ้นมา แล้วก็เปิด Strategy Tester แล้วก็ check visual mode แล้วก็ start
5. ถ้าอยากเปิดออเดอร์ ให้ไปลาก script ตัวที่เราอยากเปิด เช่น LFH_Simulator_Buy_Open แล้วก็เลือกรายละเอียดตามที่ต้องการ
6. ถ้าอยากปิดออเดอร์ ก็ไปลาก script ตัวปิด เช่น LFH_Simulator_Buy_Close
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/simulator-()/?/
วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558
การใช้ MACD ทำกำไรในตลาด FOREX
การใช้ MACD ทำกำไรในตลาด FOREX พื้นฐานถึงขึ้นสูง[Style TradeMillion13Thai]
http://www.youtube.com/watch?v=lAKIAGGI7bw
การใช้ MACD(Moving Average Convergence Divergence)
เหมาะในสภาวะตลาดที่เคลื่อนที่เป็นเทรน
ค่าเดิม 12, 26, 9
ค่าใหม่ 15,35,9
สัญญาณเข้า
1. ถ้าตัว Histogram (ภูเขา) อยู่เหนือเส้น Zero line ให้ Buy เราเรียกว่าภูเขาขึ้นบนบก
2. ตัว Histogram (ภูเขา) ถ้าอยู่ใต้เส้น Zero line ให้ Sell เราเรียกว่าภูเขาลงใต้น้ำ
3. ถ้าเส้น Signal 2เส้นห่างกันมาสัก 2-3 แท่งHistogram ให้เตรียม Buy/Sell
4. ถ้าเกิด Divergance ให้เตรียม Buy/Sell ไม่ต้องรอให้อยู่เหนือ-ใต้เส้น Zero line
สิ่งที่ควรระวัง
1. ถ้า Histogram มีความสูงติดๆกับเส้น Zero line ก็ไม่ควรเทรด
2. ถ้าเส้น Signal 2 เส้นติดกันมากก็ไม่ควรเทรด
3. การแก้ Divergance
4. ถ้าเส้น Signal 2 เส้นห่างกันมากก่อนถึงเส้น Zero line ให้เตรียมปิดออร์เดอร์
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/macd-forex/?/
http://www.youtube.com/watch?v=lAKIAGGI7bw
การใช้ MACD(Moving Average Convergence Divergence)
เหมาะในสภาวะตลาดที่เคลื่อนที่เป็นเทรน
ค่าเดิม 12, 26, 9
ค่าใหม่ 15,35,9
สัญญาณเข้า
1. ถ้าตัว Histogram (ภูเขา) อยู่เหนือเส้น Zero line ให้ Buy เราเรียกว่าภูเขาขึ้นบนบก
2. ตัว Histogram (ภูเขา) ถ้าอยู่ใต้เส้น Zero line ให้ Sell เราเรียกว่าภูเขาลงใต้น้ำ
3. ถ้าเส้น Signal 2เส้นห่างกันมาสัก 2-3 แท่งHistogram ให้เตรียม Buy/Sell
4. ถ้าเกิด Divergance ให้เตรียม Buy/Sell ไม่ต้องรอให้อยู่เหนือ-ใต้เส้น Zero line
สิ่งที่ควรระวัง
1. ถ้า Histogram มีความสูงติดๆกับเส้น Zero line ก็ไม่ควรเทรด
2. ถ้าเส้น Signal 2 เส้นติดกันมากก็ไม่ควรเทรด
3. การแก้ Divergance
4. ถ้าเส้น Signal 2 เส้นห่างกันมากก่อนถึงเส้น Zero line ให้เตรียมปิดออร์เดอร์
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/macd-forex/?/
ป้ายกำกับ:
การใช้ MACD,
กำไร,
เทรนด์,
สภาวะตลาด,
สัญญาณเข้า,
ออร์เดอร์,
Histogram,
Zero line
คำนวณกำไร-ขาดทุน
คำนวณกำไร-ขาดทุน
การคำนวณกำไร-ขาดทุน ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการบริหารพอร์ทลงทุนและการหาเป้าหมายกำไร-ขาดทุน
ดังนั้น ในบทความนี้ผมจึงอยากจะมาพูดถึงเรื่องการคำนวณ-กำไรขาดทุนหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ทุกท่านไม่มากก็น้อย
คำนวณกำไร-ขาดทุน
การคำนวณกำไร-ขาดทุน ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการบริหารพอร์ทลงทุนและการหาเป้าหมายกำไร-ขาดทุน
ดังนั้น ในบทความนี้ผมจึงอยากจะมาพูดถึงเรื่องการคำนวณ-กำไรขาดทุนหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ทุกท่านไม่มากก็น้อย
คำนวณกำไร-ขาดทุน
สูตรคำนวณ มูลค่า 1lot=จำนวนทศนิยม/ราคาปัจจุบัน x contract size
สูตรคำนวณกำไร-ขาดทุน=pip x มูลค่าlot
ตัวอย่าง
USD/JPY = 119.80 คำนวณว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ 10 pip จะเป็นเงินเท่าไหร่
คำนวณมูลค่า 1lot 0.01/119.80 x 100,000 = 8.34 แสดงว่า 1pip = 8.34$ ต่อคำสั่ง 1lot
คำนวณกำไร-ขาดทุน 8.34 x 10pip= 83.4 ราคาเคลื่อนที่ 10pipจะได้กำไร-ขาดทุนที่ 83.4$
คำนวณคู่เงินที่ ***/USD ไม่ได้อยู่ข้างหน้า
EUR/USD = 1.5531 คำนวณว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ 10 pip จะเป็นเงินเท่าไหร่
คำนวณมูลค่า 1lot ( 0.0001/1.5531 x 100,000) x 1.5531 = 10
แสดงว่า 1pip = 10$ ต่อคำสั่ง 1lot
การคำนวณกำไร-ขาดทุน ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการบริหารพอร์ทลงทุนและการหาเป้าหมายกำไร-ขาดทุน
ดังนั้น ในบทความนี้ผมจึงอยากจะมาพูดถึงเรื่องการคำนวณ-กำไรขาดทุนหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ทุกท่านไม่มากก็น้อย
คำนวณกำไร-ขาดทุน
การคำนวณกำไร-ขาดทุน ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการบริหารพอร์ทลงทุนและการหาเป้าหมายกำไร-ขาดทุน
ดังนั้น ในบทความนี้ผมจึงอยากจะมาพูดถึงเรื่องการคำนวณ-กำไรขาดทุนหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ทุกท่านไม่มากก็น้อย
คำนวณกำไร-ขาดทุน
สูตรคำนวณ มูลค่า 1lot=จำนวนทศนิยม/ราคาปัจจุบัน x contract size
สูตรคำนวณกำไร-ขาดทุน=pip x มูลค่าlot

ตัวอย่าง
USD/JPY = 119.80 คำนวณว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ 10 pip จะเป็นเงินเท่าไหร่
คำนวณมูลค่า 1lot 0.01/119.80 x 100,000 = 8.34 แสดงว่า 1pip = 8.34$ ต่อคำสั่ง 1lot
คำนวณกำไร-ขาดทุน 8.34 x 10pip= 83.4 ราคาเคลื่อนที่ 10pipจะได้กำไร-ขาดทุนที่ 83.4$
คำนวณคู่เงินที่ ***/USD ไม่ได้อยู่ข้างหน้า
EUR/USD = 1.5531 คำนวณว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ 10 pip จะเป็นเงินเท่าไหร่
คำนวณมูลค่า 1lot ( 0.0001/1.5531 x 100,000) x 1.5531 = 10
แสดงว่า 1pip = 10$ ต่อคำสั่ง 1lot
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/t518/?/
[Review บทความ cmFX] เรื่องที่ 2 : Trading Psychology
[Review บทความ cmFX] เรื่องที่ 2 : Trading Psychology
บท ความชุดนี้เป็นบทความแปลเกี่ยวกับ "จิตวิทยาการลงทุน” ซึ่งเป็นสิ่งที่หาอ่านยากมากในไทย, จึงเป็นอีกหนึ่งชุดของบทความที่เป็น "The must see" ของ cmFX เลยทีเดียวครับ, เชิญติดตามอ่านได้เลยครับที่
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/(review-cmfx)-2-trading-psychology/?/

บท ความชุดนี้เป็นบทความแปลเกี่ยวกับ "จิตวิทยาการลงทุน” ซึ่งเป็นสิ่งที่หาอ่านยากมากในไทย, จึงเป็นอีกหนึ่งชุดของบทความที่เป็น "The must see" ของ cmFX เลยทีเดียวครับ, เชิญติดตามอ่านได้เลยครับที่
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/(review-cmfx)-2-trading-psychology/?/
ทำความรู้จัก Leverage
Leverage คือ พลัง,อำนาจ(ตัวทำให้เรามีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น)
สมมุติว่า 1lot มีมูลค่าเท่ากับ 100,000$
แสดงว่า เราต้องใช้เงินถึง 100,000$ จึงสามารถที่จะเปิดออร์เดอร์ 1lot ได้
คำถาม แล้ว Leverage จะช่วยอะไรเราได้บ้าง?
คำ ตอบ Leverage จะทำให้เรามีอำนาจการซื้อมายิ่งขึ้น ถ้า Leverage เช่น ถ้าเลือก Leverage 1:1,000 แสดงว่าเรามีอำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น 1,000 เท่าของทุนจริง เป็นต้น
แสดงว่า... ถ้าเราเลือก Leverage 1:1,000 เรามีทุนเพียงแค่ 100$ ก็สามารถเทรด 1lotได้
(ทุน 150$ คูณด้วย Leverage 1,000 มีค่าเท่ากับ 100*1,000 = 100,000)
เห็นไหมครับว่า Leverage จะช่วยทำให้เรามีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น
แต่ต้องคำนึงด้วยนะครับว่า "มีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย"
Leverage ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม มีทั้งดีบ้างละไม่ดีบ้าง ลองดูตัวอย่างตามนี้เลยครับ
สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 0 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
คือเขาต้องจ่ายเงินไป 10$ คือจ่ายเต็มราคาเพราะเขาเลือก Leverage 0 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 90$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 90 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 90 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนักจนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน (Used Margin) 10$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 10$ ที่จะสามารถเทรดต่อไปได้
มาดูอีกตัวอย่างหนึ่งนะครับ
สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 1:10 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
เขาต้องจ่ายเงินไปเพียงแค่ 1$ เพราะเขาเลือก Leverage 1:10 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 99$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 99 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 99 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนัก จนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน(Used Margin)วิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ซื้อไปคืน 0.1$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 0.1$ คือ แทบจะหมดตูดและไม่สามารถเทรดต่อไปได้อีกเลย
เห็นไหมครับว่า Leverage เปรียบเสมือนดาบสองคมถึงแม้การใช้ Leverage จะทำให้เราซื้อหุ้นมาในราคาต่ำกว่าที่เป็นจริง แต่ถ้าเราไม่รู้จักการตัดขาดทุนหรือไม่มีการวางแผนที่ดีแล้วล่ะก็ มาเลือกLeverage สูงๆ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/leverage/?/
สมมุติว่า 1lot มีมูลค่าเท่ากับ 100,000$
แสดงว่า เราต้องใช้เงินถึง 100,000$ จึงสามารถที่จะเปิดออร์เดอร์ 1lot ได้
คำถาม แล้ว Leverage จะช่วยอะไรเราได้บ้าง?
คำ ตอบ Leverage จะทำให้เรามีอำนาจการซื้อมายิ่งขึ้น ถ้า Leverage เช่น ถ้าเลือก Leverage 1:1,000 แสดงว่าเรามีอำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น 1,000 เท่าของทุนจริง เป็นต้น
แสดงว่า... ถ้าเราเลือก Leverage 1:1,000 เรามีทุนเพียงแค่ 100$ ก็สามารถเทรด 1lotได้
(ทุน 150$ คูณด้วย Leverage 1,000 มีค่าเท่ากับ 100*1,000 = 100,000)
เห็นไหมครับว่า Leverage จะช่วยทำให้เรามีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น
แต่ต้องคำนึงด้วยนะครับว่า "มีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย"
Leverage ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม มีทั้งดีบ้างละไม่ดีบ้าง ลองดูตัวอย่างตามนี้เลยครับ
สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 0 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
คือเขาต้องจ่ายเงินไป 10$ คือจ่ายเต็มราคาเพราะเขาเลือก Leverage 0 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 90$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 90 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 90 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนักจนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน (Used Margin) 10$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 10$ ที่จะสามารถเทรดต่อไปได้
มาดูอีกตัวอย่างหนึ่งนะครับ
สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 1:10 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
เขาต้องจ่ายเงินไปเพียงแค่ 1$ เพราะเขาเลือก Leverage 1:10 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 99$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 99 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 99 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนัก จนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน(Used Margin)วิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ซื้อไปคืน 0.1$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 0.1$ คือ แทบจะหมดตูดและไม่สามารถเทรดต่อไปได้อีกเลย
เห็นไหมครับว่า Leverage เปรียบเสมือนดาบสองคมถึงแม้การใช้ Leverage จะทำให้เราซื้อหุ้นมาในราคาต่ำกว่าที่เป็นจริง แต่ถ้าเราไม่รู้จักการตัดขาดทุนหรือไม่มีการวางแผนที่ดีแล้วล่ะก็ มาเลือกLeverage สูงๆ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/leverage/?/
วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558
[Review บทความ cmFX] เรื่องที่ 3 : ระบบเทรด
[Review บทความ cmFX] เรื่องที่ 3 : ระบบเทรด
ทุก ท่านเคยรู้หรือไม่ว่า ChiangmaiFX เป็นแหล่งรวมของ "ระบบเทรด" ซึ่งได้ผ่านการ review และคัดเลือกมาให้พวกเราได้ทดลองใช้กัน, รวมถึงวิธีการใช้ระบบนั้นๆ และถ้ามีไฟล์ที่จำเป็น ก็จะมีให้ Download, เรียกว่าครบถ้วนเพียบพร้อมเรื่องระบบเทรดเลยทีเดียว, สำหรับคนที่มองหาระบบสักระบบหนึ่งที่เข้ากับตัวเอง ที่นี่นับว่าเป็นขุมทองเลยทีเดียว, ถ้าสนใจก็เชิญอ่านได้ที่เลยครับ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/(review-cmfx)-3/?/

ทุก ท่านเคยรู้หรือไม่ว่า ChiangmaiFX เป็นแหล่งรวมของ "ระบบเทรด" ซึ่งได้ผ่านการ review และคัดเลือกมาให้พวกเราได้ทดลองใช้กัน, รวมถึงวิธีการใช้ระบบนั้นๆ และถ้ามีไฟล์ที่จำเป็น ก็จะมีให้ Download, เรียกว่าครบถ้วนเพียบพร้อมเรื่องระบบเทรดเลยทีเดียว, สำหรับคนที่มองหาระบบสักระบบหนึ่งที่เข้ากับตัวเอง ที่นี่นับว่าเป็นขุมทองเลยทีเดียว, ถ้าสนใจก็เชิญอ่านได้ที่เลยครับ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/(review-cmfx)-3/?/
[Review บทความ cmFX] เรื่องที่ 4 : วิธีการออกที่ได้ผล
[Review บทความ cmFX] เรื่องที่ 4 : วิธีการออกที่ได้ผล
บท ความแปลชุดนี้ เป็นบทความชุดแรกๆ ที่แปลจนจบ และมีผู้อ่านติดตามมากมาย (เมื่อ 1-2 ปีก่อน) แต่หลังจากจบบริบูรณ์ก็ไม่ได้มีการกล่าวถึงอีก วันนี้มีโอกาสจึงเอามาเผยแพร่อีกครั้ง ภายใต้ concept ว่า "การออก” เป็นสิ่งที่มีผลต่อความสำเร็จในการเทรด มากกว่า “การเข้า”, เนื้อหาหลักจะพูดถึงความสำคัญของการปิดออเดอร์ และวิธีทำ รวมถึงตัวอย่าง, นับว่าเป็นบทความที่มีคุณค่ามากทีเดียว, ถ้าสนใจเชิญอ่านได้ที่
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/(review-cmfx)-4/?/

บท ความแปลชุดนี้ เป็นบทความชุดแรกๆ ที่แปลจนจบ และมีผู้อ่านติดตามมากมาย (เมื่อ 1-2 ปีก่อน) แต่หลังจากจบบริบูรณ์ก็ไม่ได้มีการกล่าวถึงอีก วันนี้มีโอกาสจึงเอามาเผยแพร่อีกครั้ง ภายใต้ concept ว่า "การออก” เป็นสิ่งที่มีผลต่อความสำเร็จในการเทรด มากกว่า “การเข้า”, เนื้อหาหลักจะพูดถึงความสำคัญของการปิดออเดอร์ และวิธีทำ รวมถึงตัวอย่าง, นับว่าเป็นบทความที่มีคุณค่ามากทีเดียว, ถ้าสนใจเชิญอ่านได้ที่
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/(review-cmfx)-4/?/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)